ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 26 ก.พ. 67
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนจาก “มูลนิธิเฮอริเทจ (Heritage Foundation)” โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อมูลนิธิฯ ที่ให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ และให้ความช่วยเหลือแก่ทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้าและความมั่นคงแบบทวิภาคี พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังชี้ว่า จากรายงานดัชนีชี้วัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจ (Economic Freedom Index) ที่ประกาศโดย “มูลนิธิเฮอริเทจ” เมื่อปีที่แล้ว ไต้หวันได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ 4 ของโลก ถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยปธน.ไช่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “มูลนิธิเฮอริเทจ” จะสวมบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้ไต้หวัน - สหรัฐฯ เสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านต่างๆ ในเชิงลึก เพื่อสร้างคุณประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น ในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดแก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืนต่อไป
ปธน.ไช่ฯ แสดงความขอบคุณต่อ “มูลนิธิเฮอริเทจ” ที่เป็นคลังสมองสำคัญของสหรัฐฯ และมุ่งให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ อย่างเต็มกำลัง ผ่านวิธีการต่างๆ อาทิ การเสนอบทความผ่านสื่อ การจัดการประชุมเสวนา เป็นต้น อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ในเชิงลึก ทั้งเศรษฐกิจ การค้าและความมั่นคง เป็นต้น ขณะเดียวกัน รายงานดัชนีชี้วัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจที่ “มูลนิธิเฮอริเทจ” เผยแพร่เป็นประจำทุกปี ยังเป็นหลักอ้างอิงที่สำคัญในการกำหนดนโยบายการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไต้หวันอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว ดัชนีชี้วัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจของไต้หวัน ครองอันดับ 4 ของโลก ถือเป็นอันดับได้ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ อันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หลายปีมานี้ ไต้หวันประสบความสำเร็จในการผลักดันการยกระดับนวัตกรรมทางอุตสาหกรรม และประสบความสำเร็จในการมุ่งไปสู่การพัฒนาความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมทางการลงทุนที่ดีให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการแล้ว ยังได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากประชาคมโลกอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนทางความมั่นคงและเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของไต้หวัน การขยายขอบเขตทางความร่วมมือระหว่างกัน นอกจากจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังเป็นการสร้างหลักประกันทางเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบห่วงโซ่อุปทานโลกอีกด้วย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยปกป้องค่านิยมสากลด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ของกลุ่มประเทศประชาธิปไตยควบคู่ไปในตัว
Mr. Kevin Roberts ประธานมูลนิธิฯ กล่าวแสดงความขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นของปธน.ไช่ฯ พร้อมกล่าวว่า ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ตนมีโอกาสเดินทางมาเยือนไต้หวัน การมาไต้หวันทำให้นึกถึงถิ่นกำเนิดของตนในรัฐเท็กซัส เนื่องจากเท็กซัสมีความคล้ายคลึงกับไต้หวัน ในด้านผู้นำที่ยอดเยี่ยม ประชาชนมีไมตรีจิตและโอบอ้อมอารี มีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ และประชาชนมีความสุขอย่างถ้วนหน้า
Mr. Roberts ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับไต้หวันที่ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับ 4 ในรายงานดัชนีชี้วัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ประจำปี 2567 โดย Mr. Roberts เห็นว่า ปธน.ไช่ฯ เป็นผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องมากที่สุด Mr. Roberts จึงได้ส่งมอบรายงานดัชนีชี้วัดเสรีภาพทางเศรษฐกิจให้แก่ปธน.ไช่ฯ ด้วยตนเอง
Mr. Roberts ยังชี้ว่า ความมั่นคงแห่งชาติมีความเกี่ยวพันกับนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อความกล้าหาญของปธน.ไช่ฯ ในการธำรงรักษาสถานภาพเดิมในช่องแคบไต้หวันให้เปี่ยมด้วยสันติภาพ ในฐานะตัวแทนของมูลนิธิฯ และสหรัฐฯ แม้ว่าปธน.ไช่ฯ จะหมดวาระตำแหน่งลงในเร็ววันนี้ แต่ Mr. Roberts และคณะตัวแทนจะยังคงให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อยกย่องเชิดชูปธน.ไช่ฯ ที่ได้อุทิศตนเพื่อเสรีภาพของประชาชนชาวไต้หวันและชาวโลก