กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 5 – 6 มี.ค. 67
เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา Mr. Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และ Mr. Anwar Ibrahim นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมหลัง “การประชุมผู้นำประจำปี ระหว่างออสเตรเลีย - มาเลเซีย ครั้งที่ 2” โดยมีเนื้อความที่ระบุว่า ทั้งสองประเทศต่างตระหนักถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งเห็นว่า ทุกฝ่ายล้วนมีภาระหน้าที่ที่ต้องป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้ง ควรมีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา และใช้มาตรการสร้างหลักประกันที่หลากหลายและโปร่งใส กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณด้วยใจจริง
รัฐบาลไต้หวันยินดีที่จะเห็นประชาคมโลกเฝ้าติดตามในประเด็นสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้นานาประเทศประยุกต์ใช้มาตรการและแนวทางที่เป็นการสร้างหลักประกันต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ตลอดจนมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อปกป้องความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล ตลอดจนเป็นการธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรือง ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา Mr. Hayashi Yoshimasa เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในระหว่างงานแถลงข่าวต่อกรณีที่จีนใช้กำลังทหารคุกคามไต้หวัน โดยระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการแก้ไขปัญหาไต้หวันผ่านการเจรจาอย่างสันติ พร้อมทั้งจะแสดงจุดยืนนี้ต่อรัฐบาลจีนอย่างหนักแน่น กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอชื่นชมรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เฝ้าจับตาต่อประเด็นความมั่นคงของสันติภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่อง
Mr. Hayashi กล่าวว่า รัฐบาลจีนแผ่ขยายอำนาจทางการทหารอย่างรวดเร็ว ภายใต้สถานการณ์ที่คลุมเครือ ซึ่งถือเป็นการสร้างความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์ที่รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ภายใต้พื้นฐานความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนหลักกติกาสากล ตลอดจนแสดงจุดยืนหนักแน่นว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน นอกจากจะมีความเกี่ยวพันกับหลักประกันด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีความสำคัญต่อประชาคมโลกเป็นอย่างมากอีกด้วย โดยญี่ปุ่นจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับมิตรประเทศอย่างสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ให้คงอยู่ต่อไป
กต.ไต้หวันยินดีที่จะเห็นกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก มีการใช้มาตรการป้องกัน ควบคู่ไปกับการต่อต้านการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของประชาคมโลก โดยไต้หวันก็จะสำแดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความทรหดและความมุ่งมั่นตั้งใจในการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นการโจมตีจากจีน ทั้งทางไซเบอร์และกำลังอาวุธ ตลอดจนประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ในการร่วมธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป
