
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 เม.ย. 67
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 เมษายน ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมกิจกรรม “วันรำลึกเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล” (International Holocaust Remembrance Day) ประจำปี 2567 โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การประสานสามัคคีมีความสำคัญต่อการขจัดความเกลียดชังและการสร้างความเข้าใจ เมื่อเผชิญกับลัทธิก่อการร้ายและลัทธิอำนาจนิยมที่นับวันทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไต้หวันได้ประสานความร่วมมือกับหุ้นส่วนระหว่างประเทศ ในการประยุกต์ใช้มาตรการเสริมสร้างเสรีภาพทางศาสนาในภูมิภาค ต่อต้านการดูหมิ่นเหยียดหยามและส่งเสริมความเสมอภาค พร้อมทั้งมุ่งมั่นธำรงรักษาประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเสมอภาคและสันติภาพที่พวกเรามุ่งมั่นแสวงหามาอย่างยากลำบาก ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยหวังที่จะสร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป
ปธน.ไช่ฯ กล่าวปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลในกรุงไทเป สมาคมเยอรมนีในไต้หวัน กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิประชาธิปไตยไต้หวัน ที่ร่วมจัดกิจกรรมที่สำคัญเช่นนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปธน.ไช่ฯ ยังถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกถึงเหยื่อในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล และแสดงความเคารพต่อผู้ที่รอดชีวิต รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากประวัติศาสตร์ที่มืดมนในครั้งนั้น
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ในทุกปีพวกเราจะมารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงความสูญเสียที่เกิดจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล และผู้คนที่ได้รับผลกระทบ โดยในช่วงเวลานั้น ศักดิ์ศรีของมนุษยชาติถูกครอบงำโดยแนวคิดทางการเมือง พวกเราจึงจำเป็นต้องจดจำประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งต่อต้านการดูหมิ่นและอคติ ต่อไป
ปธน.ไช่ฯ แสดงทรรศนะว่า พวกเราควรรำลึกไว้เสมอว่า ยังมีอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบจากลัทธิอำนาจนิยมและอำนาจเผด็จการอย่างต่อเนื่อง เพียงเพราะพวกเขายึดมั่นในแนวคิดกลุ่มชาติพันธุ์ เพศสถานะ รสนิยมทางเพศ ศาสนาและการเมือง ที่แตกต่างกัน หรือกล่าวอีกนัยว่า พวกเรายังมีหลายจุดที่สามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปได้
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า บนเส้นทางของการแสวงหาความเป็นธรรมและข้อเท็จจริง พวกเรายังสามารถเรียนรู้ประสบการณ์จากอิสราเอลที่เพียรพยายามเก็บรักษาบันทึกประวัติศาสตร์ของผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล และเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์อย่างกล้าหาญจากเยอรมนี สำหรับในไต้หวัน พวกเรามุ่งจัดการความไม่เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการตีแผ่พฤติกรรมอันโหดร้ายในยุคเผด็จการ โดยนอกจากมีการจัดพิธีรำลึกเหตุโศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ เป็นประจำทุกปีแล้ว ยังได้มีการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรม พร้อมทั้งกำหนดให้การเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมเป็นภารกิจสำคัญลำดับแรกของหน่วยงานรัฐบาลระดับสูงสุดอีกด้วย
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า สภาบริหาร สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ยังได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ เพื่อส่งเสริมให้แนวคิดด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรม ได้รับการบรรจุลงในนโยบายของรัฐบาล โดย “กฎหมายว่าด้วยข้อมูลลับทางราชการ (Political Archives Act)” ที่มีการแก้ไขใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ ที่จัดขึ้นในปีนี้ และนี่คือปัจจัยสำคัญในการมุ่งมั่นที่จะคืนความจริง ในระหว่างที่แสวงหาการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะปลอบประโลมและช่วยบรรเทาความทุกข์ใจให้แก่ผู้ตกเป็นเหยื่อและครอบครัวของเหยื่อจากความน่าสะพรึงสีขาว
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า แม้ว่าการปกป้องสิทธิมนุษยชนและต่อต้านอคติของเราจะมีความคืบหน้าอย่างมาก แต่ทั่วโลกก็ยังคงต้องสกัดกั้นการรุกรานของลัทธิต่อต้านยิวและลัทธิอำนาจนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ พวกเรายังเห็นว่า การที่ยูเครนถูกรุกรานอย่างรุนแรง และการโจมตีอิสราเอลของฮามาสได้ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงต้องเน้นย้ำความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก เพื่อมุ่งธำรงรักษาประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและสันติภาพ