ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศ (CSIS)”
2024-04-24
New Southbound Policy。ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศ (CSIS)” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศ (CSIS)” (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 23 เม.ย. 67
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 เมษายน ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และปัญหาระหว่างประเทศ (Center for Strategic and International Studies ,CSIS)” โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อเหล่าอาคันตุกะที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ในไต้หวันอย่างใกล้ชิดเสมอมา พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลัง หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามความตกลงฉบับแรก ภายใต้ “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน-สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” และ “บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาสถานการณ์ระหว่างประเทศ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลักชัยใหม่ทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าที่ทั้งสองฝ่ายร่วมสร้าง จะมีส่วนเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ ตลอดจนเป็นการสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนของสองประเทศ โดยปธน.ไช่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเปิดบริบทความร่วมมือระหว่างกันที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯเริ่มต้นการปราศรัยด้วยการกล่าวต้อนรับ Mr. Victor Cha รองผู้อำนวยการอาวุโสของ CSIS ที่นำคณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรคของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน โดยปธน.ไช่ฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนในประเด็นต่างๆ เชิงลึกกับเหล่าอาคันตุกะที่มาเยือน โดยคณะตัวแทนในครั้งนี้เฝ้าจับตาประเด็นไต้หวันมาเป็นเวลานาน  ปธน.ไช่ฯ รู้สึกขอบคุณการมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ ที่มีวัตถุประสงค์ในการมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง CSIS เป็นหนึ่งในคลังสมองที่สำคัญระดับสากล รายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศที่ประกาศโดย CSIS ต่างได้รับความสำคัญจากประชาคมโลก เชื่อว่าการสังเกตการณ์และความเข้าใจที่ทุกท่านมีต่อไต้หวัน จะกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของไต้หวันเพิ่มมากขึ้น
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า หลายปีมานี้ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างผกผัน ไต้หวันยังคงยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพอย่างหนักแน่น ควบคู่ไปกับการมุ่งขยายความร่วมมือกับพันธมิตรประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ปธน.ไช่ฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันโดยไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย รัฐบาลสหรัฐฯ นอกจากจะอนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไต้หวันอย่างสม่ำเสมอ ตาม “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” และ “หลักประกัน 6 ประการ” แล้ว ในปีนี้ยังได้มีการบัญญัติ “กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567” เพื่ออัดฉีดทรัพยากรทางการเงินเพื่อสนับสนุนข้อเสนอและมาตรการของไต้หวัน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกันในทิศทางเชิงลึกต่อไป
 
ด้าน Mr. Victor Cha กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำคณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรคของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนไต้หวันในสัปดาห์นี้ ก็เพื่อให้การสนับสนุนไต้หวันเป็นวงกว้างในมโนทัศน์ทางการเมืองแบบซ้าย-ขวา (political spectrum) ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ดีซี นอกจากนี้ Mr. Cha ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับปธน.ไช่ฯ ที่มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึก ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ อย่างกระตือรือร้น ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา โดย Mr. Cha เน้นย้ำว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนทางความร่วมมือที่สำคัญของสหรัฐฯ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและมีผลประโยชน์ร่วมกัน พวกเราจึงจำเป็นต้องสร้างหลักประกันด้านสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากประเทศอื่น และสกัดกั้นการแพร่กระจายข่าวปลอม ตลอดจนมุ่งธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาสากลให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
 
Mr. Cha หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมแลกเปลี่ยนกัน ในประเด็นการเสริมสร้างความทรหดของระบบห่วงโซ่อุปทานแบบทวิภาคี การแลกเปลี่ยนและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน และกิจการเชิงพาณิชย์ เป็นต้น