เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อให้การต้อนรับ Mr. Óscar Mauricio Giraldo Hernández ประธานคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศแห่งวุฒิสภา สาธารณรัฐโคลอมเบีย พร้อมด้วยภริยา และ Mr. Álvaro Mauricio Londoño Lugo ประธานคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรสาธารณรัฐโคลอมเบีย พร้อมด้วยภริยา ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนไต้หวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 24 – 28 พฤศจิกายน 2568 โดยรมว.หลินฯ ได้ให้การต้อนรับด้วยความจริงใจในฐ

บทความพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “ประธานาธิบดีไต้หวัน : ผมจะปรับเพิ่มงบประมาณกลาโหม เพื่อปกป้องประชาธิปไตยของพวกเรา” (Taiwan's president: I will boost defense spending to protect our democracy) ที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้รับการตีพิมพ์ลงบนหน้าหนังสือพิมพ์ “The Washington Post” ของสหรัฐฯ แล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับ Mr. Jabulani Mabuza ประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งราชอาณาจักรเอสวาตินี พร้อมด้วยคณะ โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเอสวาตินีที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างหนักแน่นเสมอมา

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงราตรีเพื่อการขอบคุณที่ร่วมจัดขึ้นโดยกต.ไต้หวัน และสมาคมสำนักงานรัฐอเมริกันในต่างแดน (American State Offices Association, ASOA) โดยรมว.หลินฯ กล่าวขอบคุณ ASOA ที่ได้ประสานความร่วมมือกับกต.ไต้หวันอย่างใกล้ชิด ในการผลักดันการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ , การค้า , การลงทุน , การศึกษา , วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ อย่างกระตือรือร้นเสมอมา

นายเฉินหมิงฉี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้ตอบรับคำเชิญของรัฐบาลแคนาดา นำคณะตัวแทนเดินทางเข้าร่วม “การประชุมว่าด้วยความมั่นคงระหว่างประเทศเมืองแฮลิแฟกซ์” (Halifax International Security Forum, HFX) ที่เปิดฉากขึ้นในเมืองแฮลิแฟกซ์ ประเทศแคนาดา ในช่วงระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2568

Mr. Anthony Pace รองอธิการบดีสถาบัน Pennsylvania College of Technology (Penn College) แห่งสหรัฐฯ และ Mr. Patrick Marty ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการประสานงานระหว่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน รวบรวมคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวัน ในช่วงระหว่างวันที่ 17 – 22 พฤศจิกายน 2568 เพื่อเปิดฉากการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาระดับนานาชาติ ขึ้นเป็นระยะเวลา 6 วัน 5 คืน ภายใต้การวางแผนจัดเตรียมการของ ศธ.ไต้หวัน คณะตัวแทนได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และฐานการเรียนรู้อย่างเป็นมืออาช

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายหลินเจียหรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย Mr. Víctor Alfredo Verdún Bitar รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของปารากวัย ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนั้น คณะตัวแทนยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่จัดต้อนรับโดยนายเก๋อเป่าเซวียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน ซึ่งสมาชิกคณะตัวแทนประกอบด้วย Mr. Raúl Mariano Martínez Villalba อธิบดีกรมกิจการนโยบายแบบทวิภาคี และ Mr. Osmar Gómez Román

การประชุมความร่วมมือทางเทคโนโลยี ระหว่างไต้หวัน - อิสราเอล ครั้งที่ 10 มีกำหนดการจัดขึ้นผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งบังเกิดฉันทามติที่สำคัญๆ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ ที่มีนายเฉินปิ่งอวี่ รองประธานคณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NSTC) และ Mr. Omer Shechter รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนวัตกรรมเทคโนโลยีอิสราเอล ร่วมกันทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งนางหลี่หย่าผิง ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำอิสราเอล และ Mr. Maya Yaron ผู้แทนรัฐบาลอิสราเอลประจำไต้หวัน ก็ได้รับเชิญให้เข้า

ไต้หวัน - แคว้นเฟลมิช ร่วมจัดการประชุมปรึกษาทางความร่วมมือ (Joint Commission Meeting) ครั้งที่ 2 ขึ้น ณ กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนายอู๋จื้อจง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไต้หวัน และ Ms. Julie Bynens เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของสภาเฟลมิช ร่วมเป็นประธานการประชุม

การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 (UNFCCC COP 30) มีกำหนดการจัดขึ้น ณ เมืองเบเล็ม ประเทศบราซิล ในช่วงระหว่างวันที่ 10 – 21 พฤศจิกายน 2568 โดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวัน (MOENV) ได้รวบรวมคณะตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เดินทางเยือนเพื่อดำเนินภารกิจ ตามหลักการ “ความเป็นมืออาชีพ ความเป็นรูปธรรมและการสร้างคุณประโยชน์” ซึ่งบังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นมากมาย นำเสนอให้เห็นถึงจิตวิญญาณของ “Mutirão” ที่สื่อความหมายว่า “การรวมพลังของประชาคมโลก” โดยไต้หวัน