นักวิชาการนานาชาติ อาทิ Jerome Cohen (ซ้าย) Stephen Young (กลาง) William Stanton (ขวา) และอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ รวม 44 คน ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไต้หวัน หวังแจ้งให้ชาวไต้หวันได้รับทราบว่า ในช่วงเวลาสำคัญแห่งประวัติศาสตร์เช่นนี้ ไต้หวันควรสามัคคีกัน (ภาพจากคลังข้อมูลสำนักข่าว CNA)
นักวิชาการนานาชาติส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไต้หวัน สนับสนุนให้ต่อต้านการข่มขู่ของจีน
สำนักข่าว CNA วันที่ 8 ม.ค. 61
นักวิชาการสหรัฐอเมริกา อาทิ Jerome Cohen, William Stanton, Stephen Young และอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯรวม 44 คน ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไต้หวัน ให้สนับสนุนประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน พร้อมเรียกร้องให้ชาวไต้หวันที่มีจุดยืนทางการเมืองต่างกัน ควรตระหนักและร่วมกันต่อต้านการข่มขู่ของจีน
จดหมายเปิดผนึกซึ่งเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษฉบับนี้ ขึ้นต้นด้วยหัวข้อ ”ชาวไต้หวันที่มีประชาธิปไตยสู้ สู้” เนื้อความจดหมายระบุว่า นักวิชาการ อดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลและมิตรของชาวไต้หวันในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศ ซึ่งเคยเป็นสักขีพยานการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยของไต้หวันในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา คาดหวังว่า จะใช้จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้มาประกาศให้ชาวไต้หวันได้ทราบว่า ในช่วงเวลาสำคัญแห่งประวัติศาสตร์เช่นนี้ ไต้หวันควรสามัคคีกัน
จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ยังระบุว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนพยายามบีบช่องว่างในประชาคมโลกของไต้หวันให้แคบลง และขยายแสนยานุภาพทางการทหาร ส่งผลให้เกิดมโนภาพว่า ในอนาคตไต้หวันจะต้องถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบอบเผด็จการอย่างแน่นอน และแรงกดดันนี้เพิ่มขึ้นถึงจุดขีดสุดเมื่อสีจิ้นผิง ผู้นำจีนออกมาแถลงเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา สีจิ้นผิงกล่าวว่า ปัญหาไต้หวันเป็นปัญหาภายในของจีน หลักการ “1 ประเทศ 2 ระบบ” เป็นทางเลือกเดียวของการรวมประเทศ
ปธน.ไช่อิงเหวินออกมาโต้กลับในวันเดียวกันว่า คนไต้หวันส่วนใหญ่คัดค้านหลักการ “1 ประเทศ 2 ระบบ” รัฐบาลภายใต้การนำของท่านไม่เคยยอมรับ ”ฉันทามติ 1992” พร้อมกล่าวถึงสาเหตุที่เสนอแนวคิด “ฉันทามติไต้หวัน” ว่า มีรากฐานมาจากหลักการ “4 ต้อง” ซึ่งรวมถึงต้องยอมรับความคงอยู่ของไต้หวันสาธารณรัฐจีน และต้องเคารพการยืนหยัดในเสรีภาพและประชาธิปไตยของชาวไต้หวันจำนวน 23 ล้านคน
นักวิชาการสหรัฐฯเหล่านี้เชื่อมั่นว่า การตอบโต้ด้วยการเสนอแนวคิดดังกล่าวของปธน.ไช่อิงเหวินเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และจากการรับมือกับแรงกดดันของจีนที่นับวันจะหนักหน่วงขึ้นเป็นลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำประเทศของปธน.ไช่อิงเหวินได้เป็นอย่างดี
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว ยังแสดงความชื่นชมชาวไต้หวันที่ต่อต้านการข่มขู่ของจีนและปกป้องระบอบประชาธิปไตย แต่ก็แสดงความกังวลถึงปัญหาที่ในระยะนี้ทางการปักกิ่งใช้กลอุบายหลอกลวงและปล่อยข่าวลือ อาจเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่จะนำไปสู่ความแตกแยกและความวุ่นวายภายในไต้หวัน เพื่อให้ปักกิ่งใช้เป็นข้ออ้างในการใช้กำลังอาวุธเข้าโจมตีไต้หวันได้
จดหมายฉบับนี้ยังระบุอีกว่า ความคงอยู่ของไต้หวันกำลังถูกคุกคามจากจีน แม้ไต้หวันจะมีปัญหาภายในมากมายที่รอการแก้ไข แต่ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีเสรีภาพและประชาธิปไตย เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามใหญ่หลวงที่อาจส่งผลต่อความคงอยู่ของประเทศชาติ ขั้นตอนของระบอบประชาธิปไตยไม่ควรจะส่งผลกระทบต่อความสามัคคีภายในชาติ หากชาวไต้หวันที่มีจุดยืนทางการเมืองต่างกันไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามดังกล่าว จะทำให้ผู้นำจีนมีโอกาสใช้วิธีบีบบังคับและสร้างความแตกแยกให้แก่สังคมไต้หวัน ถึงเวลานั้นไต้หวันก็จะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีนโดยปริยาย
สำหรับจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไต้หวันฉบับนี้ มีนักวิชาการนานาชาติจำนวน 44 คน ร่วมลงนาม อาทิ John Tkacik ผู้อำนวยการ “โครงการอนาคตเอเชีย” ของ International Assessment and Strategy Center คลังสมองสหรัฐฯ William Stanton และ Stephen Young อดีตผู้อำนวยการสถาบันอเมริกันประจำไต้หวัน สำนักงานไทเป (AIT/Taipei) Jerome Cohen ศาตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก Michael Danielsen ประธาน Taiwan Corner องค์กรของเดนมาร์ก Bruce Jacobs นักวิชาการออสเตรเลีย Michael Rand Hoare จากสถาบันวิจัย SOAS มหาวิทยาลัยลอนดอนของอังกฤษ เป็นต้น