ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
เผยสถิติปี 2018 จำนวนและสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวอาเซียนเดินทางเยือนไต้หวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
2019-04-19

 เผยสถิติปี 2018 จำนวนและสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวอาเซียนเดินทางเยือนไต้หวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

เผยสถิติปี 2018 จำนวนและสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวอาเซียนเดินทางเยือนไต้หวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าว CNA วันที่ 17 เม.ย. 62

 

เมื่อวันที่ 17เม.ย. นายหลินอี๋จวิ้น รองหัวหน้าฝ่ายกิจการตรวจคนเข้า-ออกเมือง(Entry and Exit Affairs Division) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เปิดเผยสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอาเซียนที่เดินทางเยือนไต้หวันในปี 2018 พบว่ามีจำนวนสูงถึง 2.42 ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2017  เติบโตขึ้น 13.8% ครองสัดส่วนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าไต้หวันสูงถึง21.89% ซึ่งถือได้ว่าเป็นจำนวนและสัดส่วนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นว่า การที่รัฐบาลไต้หวันเร่งผลักดัน นโยบายมุ่งใต้ใหม่ บรรลุผลดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวอาเซียน เดินทางเยือนไต้หวันในจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้น


 

นายหลินอี๋จวิ้นระบุว่า ในปี 2018 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนไต้หวันมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ 2.66 ล้านคน รองลงมาคือญี่ปุ่น 1.96 ล้านคน ฮ่องกงและมาเก๊า 1.53 ล้านคน เกาหลี1.01 ล้านคน และสหรัฐฯ 5.5 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้ นักท่องเที่ยวชาวอาเซียนที่เดินทางเยือนไต้หวัน ครองสัดส่วนสูงถึง 21.89% และนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 9 ปี


 

นายหลินอี๋จวิ้นกล่าวว่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนไต้หวัน ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น ไทยและอินโดนีเซีย ซึ่งจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่เป็นชาวอาเซียน จากสถิติของกระทรวงมหาดไทยระบุว่า สืบเนื่องจากมาตรการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2017 โดยสามารถพำนักในไต้หวันได้ไม่เกิน 14 วัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์เดินทางเยือนไต้หวัน 1.2 แสนคน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวเวียดนามและไทย ก็เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน และ 2 หมื่นคน ตามลำดับ


 

นายหลินอี๋จวิ้นเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่เดินทางออกนอกประเทศ หากนับตามสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น จะเห็นว่าในปี 2018 ชาวไต้หวันที่เดินทางไปไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 18.46% รองลงมาคือเกาหลีและเวียดนามซึ่งครองสัดส่วน 18.22% และ14.43% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึง นโยบายมุ่งใต้ใหม่เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เด่นชัด นอกจากนี้ สายการบินที่ให้บริการบินตรงจากนครเกาสงสู่ประเทศอาเซียน ก็มีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ชาวไต้หวันมีความกระตือรือร้นในการเดินทางไปติดต่อธุรกิจและท่องเที่ยว มากขึ้นตามไปด้วย