ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันเปลี่ยนชื่อ “คณะกรรมการประสานงานกิจการอเมริกาเหนือ” เป็น “คณะกรรมการกิจการสหรัฐอเมริกาแห่งไต้หวัน” เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ
2019-05-27

กต.ไต้หวันเปลี่ยนชื่อ “คณะกรรมการประสานงานกิจการอเมริกาเหนือ” เป็น “คณะกรรมการกิจการสหรัฐอเมริกาแห่งไต้หวัน” เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ

กต.ไต้หวันเปลี่ยนชื่อ “คณะกรรมการประสานงานกิจการอเมริกาเหนือ” เป็น “คณะกรรมการกิจการสหรัฐอเมริกาแห่งไต้หวัน” เพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน วันที่ 25 พ.ค. 62

 

เพื่อแสดงให้เห็นถึงการดำเนินภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้หารือร่วมกับสหรัฐฯ แล้ว จึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อของ “คณะกรรมการประสานกิจการอเมริกาเหนือ” (Coordination Council for North American Affairs, CCNAA) เป็น “คณะกรรมการกิจการสหรัฐอเมริกาแห่งไต้หวัน” (Taiwan Council for U.S. Affairs, TCUSA)


 

สหรัฐฯ ได้ดำเนินการก่อตั้ง “สถาบันอเมริกาในไต้หวัน (American Institute in Taiwan, AIT)” ตามข้อตกลงในกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ที่ได้บัญญัติไว้ในปี 1979 เพื่อเป็นองค์กรตัวแทนดำเนินการภารกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไต้หวัน อันเป็นหน่วยงานตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯ ในไต้หวัน และในปีเดียวกัน สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ก็ได้จัดตั้ง “คณะกรรมการประสานงานกิจการอเมริกาเหนือ” ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานที่คอยประสานงานกับ AIT โดยชื่อ CCNAA มีที่มาที่ไปที่มีความพิเศษในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้พยายามที่จะขอเปลี่ยนชื่อของหน่วยงานที่เป็นตัวแทนของไต้หวันให้สอดคล้องกับภารกิจตามความเป็นจริง และแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่งไต้หวัน-สหรัฐฯ มาโดยตลอด หลังจากได้มีความพยายามในการเจรจามาอย่างยาวนาน ในปี 2019 ที่เป็นปีซึ่งครบรอบ 40 ปีของกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตกลงจะเปลี่ยนชื่อหน่วยงานของไต้หวันที่ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับสหรัฐฯ ใหม่ เพื่อแสดงให้เห็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายและถือว่ามีนัยสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ได้มีการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ทั้งสองฝ่ายได้มีความร่วมมือกันอย่างแนบแน่น ทั้งในประเด็นด้านสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่าน Mr. Patrick Murphy เจ้าหน้าที่ระดับสูงกรมเอเชีย – แปซิฟิกได้กล่าวอย่างเปิดเผยว่า พฤติกรรมที่จีนกระทำต่อประเทศพันธมิตรในมหาสมุทรแปซิฟิกของเรา ไม่เพียงแต่จะทำให้สถานะในปัจจุบันแปรเปลี่ยนไป ยังอาจทำให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้นด้วย และใน “การประชุมสุดยอดผู้นำในสหพันธรัฐไมโครนีเซียครั้งที่ 19” (Micronesia Presidents' Summi) ที่จัดขึ้นในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ณ สาธารณรัฐปาเลานั้น Mr. Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ก็ได้กล่าวยกย่องไต้หวันว่า เป็นแบบอย่างของความสำเร็จแห่งประชาธิปไตย เป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ และเป็นพลังบวกของโลก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันขอขอบคุณในความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มา ณ ที่นี้ด้วย