คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนชนพื้นเมืองไต้หวัน ที่เกิดจากการรวมตัวกันของนักเรียนโรงเรียนมัธยมต้นเป่าไหลและโรงเรียนประถมเจี้ยนซานในนครเกาสง ได้เดินทางไปเปิดการแสดงเพื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ประเทศอังกฤษ โดยในค่ำวันที่ 25พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ร่วมขับขานบทเพลง “พระคุณพระเจ้า (Amazing Grace)” ร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียงชาวอังกฤษและญี่ปุ่น (ภาพจากฝ่ายวัฒนธรรม สำนักงานตัวแทนไต้หวันประจำอังกฤษ) สำนักข่าว CNA วันที่ 26 พ.ค. 62

สำนักข่าว CNA วันที่ 26 พ.ค. 62

คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนชนพื้นเมืองไต้หวัน ที่เกิดจากการรวมตัวกันของนักเรียนโรงเรียนมัธยมต้นเป่าไหลและโรงเรียนประถมเจี้ยนซานในนครเกาสง เดินทางไปเปิดการแสดงขับร้องประสานเสียงเพื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่ประเทศอังกฤษ และเมื่อวันที่ 25พ.ค. ที่ผ่านมา ทางคณะได้ร่วมกันขับขานบทเพลง “พระคุณพระเจ้า (Amazing Grace)” ร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียงของอังกฤษและญี่ปุ่น ซึ่งเทคนิคการร้องเพลงแบบ 8 สำเนียงเสียงประสานของชนพื้นเมืองไต้หวันสามารถสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้ชมชาวต่างชาติได้เป็นอย่างมาก

คณะนักร้องประสานเสียงของโรงเรียนมัธยมต้นเป่าไหล เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง ประเภทการบรรเลงดนตรีพื้นเมืองประกอบ ในการแข่งขันการขับร้องประสานเสียงชิงแชมป์โลก (World Choir Game 2018) โดยเมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา สมาชิกในคณะฯ ได้สวมชุดประจำเผ่าของชนเผ่าปู้หนงในการแสดงที่โบสถ์เซนต์โบทอลฟ์สไพรออรี (St. Botolph’s Priory and Chruch) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโคลเชนเตอร์ของประเทศอังกฤษ โดยเป็นการแสดงร่วมกับคณะนักร้องประสานเสียงกลุ่มภริยาทหารแห่งโคลเชสเตอร์ (The Colchester Military Wives Choir) และคณะนักร้องประสานเสียงผู้สูงวัยชาวโอกินาว่าของญี่ปุ่น (The Amici Choir, Okinawa) ซึ่งต่างก็สามารถทำให้ค่ำคืนแห่งเสียงเพลงนี้ กลายเป็นความประทับใจอันยากจะลืมเลือนสำหรับเหล่าผู้ชมที่มาชมการแสดง

การแสดงในครั้งนี้จัดขึ้นโดยคณะนักร้องประสานกลุ่มภริยาทหารแห่งโคลเชสเตอร์ ซึ่งได้เชิญคณะนักร้องประสานเสียงที่เป็นกลุ่มผู้สูงวัยจากโอกินาว่าของญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุเฉลี่ยประมาณ 70-80 ปี และคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนจากไต้หวันที่มีอายุเฉลี่ย 11-17 ปี โดยมีคณะนักร้องประสานเสียงจากโรงเรียนมัธยมต้นเป่าไหลเป็นแกนนำ และมีคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนชนเผ่าพื้นเมืองจากโรงเรียนประถมเจี้ยนซานมาร่วมสมทบ การแสดงข้ามวัยของคน 3 รุ่นทั้งในระดับเยาวชน วัยกลางคน และสูงวัยจาก 3 ประเทศ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางดนตรีอันถือเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละประเทศได้เป็นอย่างดี

โดยรายชื่อเพลงที่ใช้ในการแสดงครั้งนี้ ประกอบไปด้วยเพลงสากลยอดนิยมอันเป็นที่รู้จักกันดี เช่นเพลง Viva La Vida, Titanium, A Thousand Years รวมไปจนถึงเพลง Soran Bushi ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น และบทเพลง “เพลงชุดปู้หนัน และ “Pakalungay” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านของชนเผ่าอาเหม่ยของไต้หวัน

และเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนชนพื้นเมืองไต้หวัน ได้เดินทางไปเปิดการแสดงขับร้องประสานเสียงที่โรงเรียนประถมศึกษา The Blue Coat School โดยได้ร่วมขับร้องกับนักเรียนของโรงเรียนดังกล่าว ถือเป็นการใช้ดนตรีเป็นสื่อกลางในการสานสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – อังกฤษไปพร้อมกัน

โดยเมื่อวันที่ 26 พ.ค. คณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนชนพื้นเมืองไต้หวัน ได้จัดการแสดงในรูปแบบแฟลชม็อบที่เมืองเคมบริดจ์ (Cambridge) และในวันที่ 29 พ.ค. ก็มีกำหนดการเดินทางไปเปิดการแสดงที่โบสถ์เซนต์เจมส์ ซึ่งตั้งอยู่ในจตุรัสใจกลางกรุงลอนดอน (St James's Church, Piccadilly) ที่เป็นสถาปัตยกรรมกอทิก (Gothic architecture) ที่มีชื่อเสียง อันถือเป็นการผลักดันให้คณะนักร้องประสานเสียงของชนพื้นเมืองไต้หวันได้มีโอกาสก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นการสร้างความสุขใจในการเสพดนตรีของเหล่าผู้ฟังชาวลอนดอนไปพร้อมกันด้วย