ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
“แผนการเดินทางแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยอันยั่งยืน ปี 2019” ใกล้ปิดฉาก ปธน.ไช่ ฯ แบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการออกเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรในครั้งนี้ กับทีมสื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไปด้วย
2019-07-22

“แผนการเดินทางแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยอันยั่งยืน ปี 2019” ใกล้ปิดฉาก ปธน.ไช่ ฯ แบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการออกเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรในครั้งนี้ กับทีมสื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไปด้วย (ทำเนียบประธานาธิบดี)

“แผนการเดินทางแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยอันยั่งยืน ปี 2019” ใกล้ปิดฉาก ปธน.ไช่ ฯ แบ่งปันข้อคิดที่ได้จากการออกเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรในครั้งนี้ กับทีมสื่อมวลชนที่ร่วมเดินทางไปด้วย (ทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) วันที่ 21ก.ค. 62

 

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา (ซึ่งตรงกับช่วงเช้าวันที่ 21ก.ค. ตามเวลากรุงไทเป ไต้หวัน) ตาม “แผนการเดินทางแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยอันยั่งยืน ปี 2019” ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางมาถึงเมืองเดนเวอร์ (Denver) ของสหรัฐฯ และได้ร่วมดื่มน้ำชากับบรรดาสื่อมวลชนที่ติดตามคณะมาด้วยในการเดินทางครั้งนี้ เพื่อตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกำหนดการแวะเยือนสหรัฐฯ รวมถึงการเดินทางเยือนประเทศพันธมิตร เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนกัน ในหัวข้อที่เกี่ยวกับนโยบายสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา


 

โดยผู้สื่อข่าวได้ถามว่า การจัดงานดื่มน้ำชาร่วมกับสื่อมวลชนในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนี้ ให้ความรู้สึกแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มาอย่างไร ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสหรัฐฯ ในการยินยอมให้เป็นทางผ่าน เพื่อเดินทางไปยังประเทศพันธมิตรที่ตั้งอยู่ในแถบทะเลแคริบเบียน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารหรือหน่วยงานรัฐสภา ต่างก็ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก ทำให้การเดินทางผ่านแดนในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความราบรื่น


 

ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึง ช่วงเวลาใดที่ประทับใจมากที่สุด ในการเยือนครั้งนี้ ซึ่งปธน.ไช่ฯ ได้เผยว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตนออกเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรเป็นเวลานานที่สุด นับตั้งแต่ที่ตนได้เข้าดำรงตำแหน่งปธน.เป็นต้นมา โดยได้เดินทางเยือนทั้งหมด 4 ประเทศพันธมิตร และผ่านเขตแดนของสหรัฐฯ 2 ครั้ง ซึ่งนี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงการดำเนินการ ตามหลักการทูตเชิงปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยจากการดำเนินการการทูตเชิงปฏิบัติในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตนรู้สึกมีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและประเทศพันธมิตร นับวันจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ


 

ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ มีความแนบแน่นมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันหรือไม่นั้น ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ประชาชนชาวไต้หวันให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และสิทธิในการกำหนดทิศทางในอนาคตด้วยตนเอง ด้วยวิถีทางแห่งประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นคุณค่าและเป็นสิ่งที่ประชาชนชาวไต้หวันให้ความสำคัญมากที่สุด


 

ท้ายสุด ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับ การป้องกันภัยคุกคามและภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายในประเทศ หลังการเข้าเยี่ยมชม “ศูนย์วิจัยบรรยากาศแห่งชาติ” (National Center for Atmospheric Research, NCAR) แห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า เราคาดหวังที่จะยกระดับการสังเกตการณ์ และจับตาเฝ้าติดตามทิศทางของภัยพิบัติธรรมชาติในเชิงลึก หรือแม้แต่การแสวงหาหนทางช่วยป้องกันภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ หรือเพื่อลดระดับความเสียหายอันเกิดจากภัยพิบัติต่างๆ ต่อไป


 

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ นายหลี่ต้าเหวย เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน และนายเกาสั่วไท่ เอกอัครราชทูตไต้หวันประจำสหรัฐฯ ต่างก็เดินทางมาเข้าร่วมงานด้วย