ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
TAITRA โปรโมทผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน ทีมแพทย์รพ. อี้ต้าให้สัมภาษณ์แก่สื่อไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ นำเสนอประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน
2020-04-15

TAITRA ติดต่อประสานให้ทีมแพทย์รพ. อี้ต้ากับผู้สื่อข่าวไทยในสำนักข่าว Hfocus จัดการประชุมร่วมกัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อนำเสนอผลสัมฤทธิ์และประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน (ภาพจาก TAITRA)

TAITRA ติดต่อประสานให้ทีมแพทย์รพ. อี้ต้ากับผู้สื่อข่าวไทยในสำนักข่าว Hfocus จัดการประชุมร่วมกัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อนำเสนอผลสัมฤทธิ์และประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน (ภาพจาก TAITRA)

TAITRA วันที่ 13 เม.ย. 63

 

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) แถลงว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ยังคงครอบคลุมทั่วโลก ไต้หวันที่ตั้งอยู่ใกล้กับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งล้วนเป็นประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนัก กลับมีผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดที่โดดเด่น ดึงดูดสื่อต่างชาติให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลาย เมื่อวันที่ 9 เม.ย. สำนักข่าว Hfocus ของไทย ที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับนโยบายสาธารณสุขและระบบการดูแลทางการแพทย์เป็นหลัก ได้นำเสนอประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน โดยเจ้าหน้าที่ TAITRA ได้ทำหน้าที่เป็นผู้บรรยาย และเป็นผู้ประสานการติดต่อระหว่างผู้สื่อข่าวไทยกับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอี้ต้า (E-Da Hospital) ให้ร่วมสนทนาหารือกัน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยหวังว่า ประสบการณ์เหล่านี้ของไต้หวันจะเป็นแนวทางให้ผู้กำหนดนโยบายสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ของไทย นำไปประยุกต์ใช้ต่อไป


 

โดยทีมแพทย์รพ. อี้ต้าฯ ที่เข้าร่วมแบ่งปันประสบการณ์ผ่านทางออนไลน์ในครั้งนี้ ประกอบด้วย ดร. เจิ้งเซิ่งฟง รองผู้อำนวยการ รพ.อี้ต้าฯ ดร. หวงจวิ้นข่าย หัวหน้าแผนกระบาดวิทยา ดร. ทังเต้าเชียน หัวหน้าศูนย์การแพทย์นานาชาติ และทีมบุคลากรทางการแพทย์นานาชาติ


 

ดร. ทังฯ กล่าวว่า มาตรการป้องกันโรคโควิด – 19 ของไต้หวันในครั้งนี้ ได้รับบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่มาจากเหตุการณ์การระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ในช่วงต้นที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 รัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้เร่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (Central Epidemic Command Center, CECC) ขึ้นทันที โดยได้ผนวกกำลังทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการร่วมกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดในประเทศ พร้อมจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ที่จำเป็นให้กับทุกพื้นที่ในประเทศอย่างทั่วถึง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความตื่นตระหนกของภาคประชาชน นอกจากนี้ โรงพยาบาลทุกแห่งในไต้หวัน ก็มีบทบาทสำคัญในระบบการป้องกันโรคระบาด โดยประยุกต์ใช้มาตรการที่ครอบคลุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในสถานพยาบาล ทั้งนี้ ก็เพื่อปกป้องผู้ป่วย ญาติมิตร และเจ้าหน้าที่ในสถานพยาบาลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงกันถ้วนหน้า


 

ดร.หวงฯ เน้นย้ำว่า การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันในครั้งนี้ สามารถรักษาระดับให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาลและสถาบันการแพทย์ที่ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โรงพยาบาลทุกแห่งในประเทศ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ CECC ติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิด และอัปเดตสถานการณ์การระบาดล่าสุดตลอดเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์และจัดการประชุมด้วยระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ทางรพ.อี้ต้าฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของสถาบันฯ เพื่อเป็นประโยชน์แก่บุคลากรทางการแพทย์ในต่างประเทศ พร้อมคาดหวังว่า ในขณะที่ทั่วโลกกำลังประสบกับวิกฤตโรคระบาดเช่นนี้ ผลสัมฤทธิ์ด้านการแพทย์ของไต้หวันจะสามารถร่วมสร้างประโยชน์ให้กับประชาคมโลกได้


 

TAITRA แสดงความเห็นว่า แนวทางการป้องกันโรคระบาดของสถาบันการแพทย์ไต้หวันประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งจนปัจจุบัน TAITRA ได้โปรโมทผลสัมฤทธิ์ดังกล่าวไปยังนานาประเทศทั่วโลก รวม 63 ประเทศแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการติดต่อประสานงาน ให้ทีมแพทย์ของอินเดียและเมียนมา เข้าร่วมเจรจาและขอคำชี้แนะด้านการป้องกันโรคระบาดจากตัวแทนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง (National Cheng Kung University Hospital, NCKUH) และโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน (Changhua Christian Hospital, CCH) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งบรรดาแพทย์ของอินเดียและเมียนมาที่มีความประสงค์จะเข้าร่วม มีจำนวนกว่า 10,000 คน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่ TAITRA กำลังดำเนินการจัดตาราง ในการเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดกับตัวแทนโรงพยาบาลในไต้หวัน ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงการจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้วย