สาระสำคัญของเนื้อข่าว :
♦ ขณะนี้ ในไต้หวันมีผู้ป่วยยืนยันมีจำนวน 819 คน ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนี้ มี 724 รายเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 56 รายเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ
♦ CECC จึงได้เรียกร้องให้ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หากมีไข้ ไอ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ต้องรีบรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองในท่าอากาศยานและท่าเรือ พร้อมให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด
♦ นับตั้งแต่เวลา 00.00 นาฬิกาของวันที่ 15 ม.ค. ปี 2021 เป็นต้นไป ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน นอกจากต้องแนบใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทางไม่เกิน 3 วันแล้ว ยังต้องแนบหนังสือรับรองการเข้าพักในสถานกักกันโรค
-------------------------------------------
CECC วันที่ 6 ม.ค. 64
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน (Central Epidemic Command Center, CECC) ประกาศว่า ไต้หวันพบกรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เป็นจำนวน 2 ราย เป็นผู้ป่วยรายที่ 819 และ 820 ตราบจนปัจุบัน ยอดสะสมของผู้ที่มีอาการเข้าข่ายสงสัยที่ได้รับรายงานในไต้หวัน มีจำนวนรวม 129,393 คน (จำนวนนี้รวมผู้ที่ได้รับการยืนยันภายหลังว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งสิ้น 127,342 คน) โดยผู้ป่วยยืนยันมีจำนวน 819 คน ซึ่งจากจำนวนทั้งหมดนี้ มี 724 รายเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 56 รายเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 36 รายเป็นนายทหารในกองเรือรบตุนมู่ อีก 2 รายเป็นผู้ที่ติดเชื้อบนอากาศยาน ส่วนอีก 1 รายไม่สามารถระบุแหล่งติดเชื้อได้อย่างแน่ชัด ส่วนกรณีผู้ป่วยรายที่ 530 ได้ถูกลบข้อมูลออกจากสารระบบ ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย มี 700 รายที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนผู้ป่วยที่เหลือ 112 คนยังอยู่ในระหว่างการกักตัวที่โรงพยาบาล
CECC ระบุว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด – 19) แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ ในสหรัฐอเมริกายังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศในภูมิภาคยุโรปก็พบผู้ป่วยยืนยันต่อวันมากกว่า 10,000 รายขึ้นไป ซึ่งรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ก็ได้เพิ่มความเข้มงวดและขยายระยะเวลาการใช้มาตรการควบคุมต่างๆ เพื่อสกัดกั้นโรคโควิด – 19 อย่างเร่งด่วน อาทิ ขยายเวลาคำสั่งห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน ประกาศเคอร์ฟิว และปิดการเรียนการสอน ส่วนในภูมิภาคแอฟริกา ถือเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นมากเป็นอันดับต้นๆ ในช่วงที่ผานมา ซึ่งจำนวนผู้ป่วยยืนยันและผู้เสียชีวิต เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้ CECC จึงได้เรียกร้องให้ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ หากมีไข้ ไอ หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ต้องรีบรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองในท่าอากาศยานและท่าเรือ พร้อมให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด โดยหลังจากที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้ว ควรทำการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ หากในระหว่างการกักตัว มีอาการต้องสงสัย ต้องรีบติดต่อกองสาธารณสุขและศูนย์อนามัยในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนให้ความร่วมมือในการเข้าพบแพทย์ หลีกเลี่ยงการโดยสารยานพาหนะประจำทาง และในระหว่างการเข้าพบแพทย์ ต้องแจ้งประวัติการเดินทาง (Travel) ประเภทอาชีพ (Occupation) ประวัติการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน (Contact) หรือประวัติการรวมกลุ่มกับกลุ่มชน (Cluster) หรือที่เรียกโดยรวมว่า TOCC ตามความเป็นจริง เพื่อสะดวกต่อการวินิจฉัยของแพทย์ และความรวดเร็วในการรายงานต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง
CECC แถลงว่า เพื่อรักษาความมั่นคงด้านการป้องกันโรคระบาดภายในประเทศ และสร้างหลักประกันสุขภาพที่ดีให้กับสาธารณชน นับตั้งแต่เวลา 00.00 นาฬิกาของวันที่ 15 ม.ค. ปี 2021 เป็นต้นไป จะเพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้มาตรการตรวจกักกันโรคผู้ที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน นอกจากต้องแนบใบรับรองการตรวจเชื้อโควิด - 19 ที่มีผลเป็นลบก่อนออกเดินทางไม่เกิน 3 วันแล้ว ยังต้องแนบหนังสือรับรองการเข้าพักในสถานกักกันโรค (โดยหลักการต้องเป็นสถานกักกันโรคของรัฐหรือโรงแรมกันกันโรค สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะกักตัวที่บ้าน กำหนดให้บุคคลนั้นๆ อยู่ในเคหสถานแห่งนั้นได้เพียงลำพัง และต้องลงนามในหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน) เนื่องจากคำนึงถึงความต้องการในการเดินทางกลับเข้าไต้หวันของประชาชน ในช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้จะมาถึง ซึ่งอุปสงค์ด้านห้องพักสำหรับการกักตัวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทางการจึงได้ทำการจัดห้องพักในสถานกักกันโรคสำหรับผู้โดยสารกลุ่มนี้ รวมเป็นจำนวน 1,500 – 2,000 ห้อง
