กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 พ.ย. 66
“คณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตรประจำสหประชาชาติ” จำนวน 7 คน ตอบรับคำเชิญของรัฐบาลไต้หวัน มีกำหนดการนำคณะตัวแทนเดินทางเยือนไต้หวันในช่วงระหว่างวันที่ 13 – 18 พ.ย. นี้ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความยินดีที่จะให้การต้อนรับด้วยใจจริง
โดยสมาชิกคณะ ประกอบด้วย H.E. Inga Rhonda King ผู้แทนถาวรเซนต์วินเซนต์ประจําสหประชาชาติ H.E. Amatlain Elizabeth Kabua ผู้แทนถาวรหมู่เกาะมาร์แชลล์ประจําสหประชาชาติ H.E. Margo Reminisse Deiye ผู้แทนถาวรสาธารณรัฐนาอูรู H.E. Carlos Fuller ผู้แทนถาวรเบลิซและภริยา รวมไปถึง H.E. José Eduardo Pereira Sosa อุปทูตรักษาการผู้แทนถาวรปารากวัย
โดยในระหว่างการพำนักไต้หวันในครั้งนี้ คณะตัวแทนมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมทั้งเข้าพบนายโหยวสีคุน ประธานสภานิติบัญญัติ นายสวีซือเจี่ยน รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเซวียรุ่ยหยวน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ นายเซวียฟู่เซิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม และออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล นายชิวไท้ซาน ประธานคณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ นางเกาเซียนกุ้ย รองประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติไต้หวัน (NDC) นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยคณะตัวแทนยังมีกำหนดการเข้าเยี่ยมชมศูนย์เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของไต้หวัน (NCDR) และกองทุนเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของไต้หวัน (Taiwan ICDF) นอกจากนี้ คณะตัวแทนยังจะเข้าร่วม “การประชุมผู้ประกอบการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ครั้งที่ 6 ประจำปี 2023” และพบปะพูดคุยกับนายเจี่ยนยิ่วซิน เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษของไต้หวัน ตลอดจนจะเข้าเยี่ยมชมศูนย์พืชผักโลก สวนวิทยาศาสตร์ภาคใต้และพิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ (กู้กง)
บรรดาแขกอาคันตุกะที่มาเยือนในครั้งนี้มีประสบการณ์และคุ้นเคยกับภารกิจของสหประชาชาติ (UN) เป็นอย่างดี พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมระบบ UN ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม ซึ่งล้วนแต่เป็นมิตรสหายที่จริงใจของไต้หวัน โดยวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ก็เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์การพัฒนาทางการเมืองและเศรษฐกิจของไต้หวัน พร้อมทั้งร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นที่ UN ให้ความสนใจในปัจจุบันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และช่วยให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวันมีความเข้าใจต่อภารกิจของ UN มากขึ้น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้นโยบายต่างๆ ของภาครัฐสามารถเชื่อมโยงสู่เวทีนานาชาติได้ เพื่อสร้างความผาสุกให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนชาวไต้หวัน ตลอดจนอุทิศคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลก รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกของไต้หวัน ในฐานะที่เป็นพลังแห่งความดีของประชาคมโลก
