ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 22 พ.ย. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Ms. Guri Melby รองประธานคนที่ 2 ของคณะกรรมาธิการการต่างประเทศและกลาโหมแห่งรัฐสภานอร์เวย์ และคณะตัวแทน โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Melby ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมระบุว่า ไต้หวันและนอร์เวย์ ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ โดยปธน. ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่าย ขยายขอบเขตการแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาให้เกิดแก่ประชาคมโลกสืบไป
 
ช่วงแรก ปธน.ไช่ฯ ได้กล่าวให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ โดย Ms. Melby ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานคนที่ 2 ของคณะกรรมาธิการการต่างประเทศและกลาโหมแห่งรัฐสภานอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ปธน.ไช่ฯ จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่มีโอกาสให้การต้อนรับ Ms. Melby และคณะตัวแทนพรรคเสรีนิยม นับเป็นอีกครั้งในรอบ 12 ปีที่เจ้าหน้าที่รัฐสภานอร์เวย์ตอบรับคำเชิญของรัฐบาลไต้หวัน ในการจัดคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ ซึ่งเปี่ยมด้วยนัยยะที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงขอแสดงความยินดีในการต้อนรับการเดินทางมากเยือนไต้หวันของคณะตัวแทนด้วยใจจริง
 
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า Ms. Melby เฝ้าจับตาต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนมาเป็นระยะเวลานาน ก่อนหน้านี้ นอกจาก Ms. Melby จะเดินทางเยือนฮ่องกง เพื่อร่วมเป็นกระบอกเสียงในระหว่างการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนของฮ่องกง เพื่อแสดงความสนับสนุนประชาชนชาวฮ่องกง ในการลุกขึ้นปกป้องสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม อีกทั้ง Ms. Melby ยังได้เสนอชื่อประชาชนชาวฮ่องกงให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลทำการพิจารณา สำหรับรางวัลโนเบลสันติภาพ ประจำปี 2020 ซึ่งแนวคิดที่หนักแน่นและการดำเนินการของ Ms. Melby ได้รับความชื่นชมจากประชาคมโลกเป็นอย่างมาก
 
นอกจากนี้ Ms. Melby ยังแสดงความห่วงใยต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันเป็นอย่างมาก ปธน.ไช่ฯ ได้ใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อ Ms. Melby ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ยื่นเสนอญัตติต่อรัฐสภานอร์เวย์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนอร์เวย์สนับสนุนไต้หวันด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภายใต้การสนับสนุนของ Ms. Melby ไต้หวันและนอร์เวย์ จะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนในเชิงลึกต่อไปในภายภาคหน้า เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาให้แก่ประชาคมโลกต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า หลายปีมานี้ ไต้หวันมุ่งผลักดันอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวอย่างกระตือรือร้น ซึ่งนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีจุดเด่นในด้านนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงเศรษฐการของไต้หวันก็ได้จัดคณะตัวแทนเดินทางเยือนนอร์เวย์ เพื่อเข้าร่วม “การประชุมว่าด้วยฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง ระหว่างไต้หวัน - นอร์เวย์” ซึ่งถือเป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – นอร์เวย์ ซึ่งมีขอบเขตที่ใหญ่ที่สุดนับแต่ที่เคยมีมา โดยหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้นต่อไป
 
ในลำดับต่อมา เป็นการกล่าวปราศรัยของ Ms. Melby โดยชี้ว่า ในโลกที่เปี่ยมด้วยปัจจัยแห่งความไม่แน่นอนซึ่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประชาชนที่ใช้ชีวิตตามวิถีแห่งประชาธิปไตยมีสัดส่วนที่น้อยลงทุกวัน ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงไม่สามารถมองข้ามค่านิยมที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญร่วมกัน Ms. Melby รู้สึกประทับใจต่อพัฒนาการทางประชาธิปไตยของไต้หวันที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาอันสั้น โดยไต้หวันได้บรรลุเป้าหมายที่นานาประเทศต้องการแสวงหา ซึ่งก็คือการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ค่านิยมทางประชาธิปไตย มีสิทธิมนุษยชน และมุ่งสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเพื่อสร้างหลักประกันด้านเสรีภาพในการดำเนินชีวิตของภาคประชาชนในภาพรวม
 
Ms. Melby กล่าวด้วยว่า หนึ่งในภารกิจหลักของโลกเสรีภาพ คือการให้ความช่วยเหลือไต้หวันในการธำรงปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของคณะตัวแทนในการเดินทางเยือนไต้หวันครั้งนี้ด้วย สำหรับกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เช่น นอร์เวย์ แล้ว การที่รัสเซียก่อสงครามต่อยูเครน ยิ่งทำให้พวกเราตระหนักได้ว่า ประเทศลัทธิอำนาจนิยมสามารถก่อการกระทำใดๆ ได้ตามอำเภอใจ และยังได้ข้อคิดว่า การพึ่งพากลุ่มลัทธิอำนาจนิยมเช่นนี้ จะทำให้ยิ่งตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มประเทศเผด็จการเพิ่มมากยิ่งขึ้น
 
Ms. Melby กล่าวอีกว่า การค้าระหว่างประเทศ กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการถ่ายโอนทางเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการช่วยขจัดความยากจนของภาคประชาชน แต่ทั้งนี้ ก็ยังต้องตระหนักถึงการพึ่งพากลไกเศรษฐกิจเกิดใหม่ Ms. Melby แสดงทรรศนะว่า พวกเราควรปิดช่องทางมิให้กลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม อาศัยเครื่องมือทางเศรษฐกิจ มาใช้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงความสงบเรียบร้อยของโลก ซึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหาก็คือ การลดการพึ่งพาต่อกลุ่มประเทศลัทธิอำนาจนิยม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างไต้หวันให้มากขึ้น
 
ต่อประเด็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงลึก ระหว่างไต้หวัน – นอร์เวย์ Ms. Melby ชี้ว่า ตนและคณะตัวแทนได้ยื่นเสนอญัตติหลายประการในรัฐสภา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลนอร์เวย์ในไต้หวันขึ้นอีกครั้ง โดย Ms. Melby ยังได้กระตุ้นให้รัฐบาลนอร์เวย์แสดงความสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในแผนปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโลก ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) อย่างกระตือรือร้นด้วย
 
Ms. Melby กล่าวว่า แนวทางในการสนับสนุนการปกป้องประชาธิปไตยของไต้หวัน และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – นอร์เวย์ที่ดีที่สุด คือ การสร้างความเชื่อมโยงทางการทูตและเศรษฐกิจ ในขณะนี้ ประชาชนที่ใช้ชีวิตตามวิถีแห่งประชาธิปไตยมีสัดส่วนลดน้อยลงทุกที ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยจำเป็นต้องประสานสามัคคี ในการต่อสู้เพื่อรักษาค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกัน โดยนอร์เวย์ก็จะมุ่งมั่นในการยืนเคียงข้างไต้หวัน เพื่อธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป