ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่นสพ.เดอะวอชิงตันโพสต์ ชี้ ไต้หวันมุ่งให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตร เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนในพื้นที่
2024-02-02
New Southbound Policy。รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่นสพ.เดอะวอชิงตันโพสต์ ชี้ ไต้หวันมุ่งให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตร เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่นสพ.เดอะวอชิงตันโพสต์ ชี้ ไต้หวันมุ่งให้ความช่วยเหลือประเทศพันธมิตร เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 1 ก.พ. 67
 
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์แก่ Ms. Lily Kuo และนายเจี่ยงเหย้าอวี่ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ (The Washington Post) ที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้แจงในเชิงลึก เกี่ยวกับประเด็นการยุติความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไต้หวัน – สาธารณรัฐนาอูรู โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 2 ก.พ. 2567 ในหัวข้อ “จีนหาโอกาสสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับกลุมประเทศพันธมิตรของไต้หวันในมหาสมุทรแปซิฟิก” (China sets sights on Taiwan’s three remaining tiny Pacific allies)
 
โดย รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า นาอูรูเคยเตือนรัฐบาลไต้หวันในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เนื่องจาก “ศูนย์ควบคุมดูแลผู้ลี้ภัย” (Regional Precessing Center) ที่จัดตั้งขึ้นในดินแดนนาอูรู เตรียมจะปิดตัวลง ซึ่งอาจทำให้นาอูรูประสบกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งไต้หวันได้ให้คำมั่นว่า จะเร่งเปิดการเจรจาหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือนาอูรู ร่วมกับสหรัฐฯ และออสเตรเลีย รวมถึงกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน แต่คาดไม่ถึงว่า จีนจะอาศัยโอกาสในระหว่างการเปิดการเจรจาหารือระหว่างกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน และเป็นช่วงเวลาที่นานาประเทศร่วมแสดงความยินดีต่อการเลือกตั้งทั่วไปในไต้หวันที่เพิ่งปิดฉากลงไป มาสร้างแรงจูงใจทางการเงินที่ไร้กรอบเพดาน (unlimited) เพื่อหลอกล่อนาอูรูให้หันไปผูกสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแทน อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของจีนที่ต้องการเข้ารุกรานไต้หวันยังไม่บรรลุผลสำเร็จ การเลือกตั้งปธน.ครั้งใหญ่ในไต้หวันที่ปิดฉากลงอย่างราบรื่น ได้รับความชื่นชมจากเหล่านักการเมืองของนานาประเทศ โดยที่ประชาชนชาวไต้หวันก็มิได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
 
รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างไต้หวันและกลุ่มประเทศพันธมิตร ดำเนินไปตามแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความผาสุกให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งสวนทางกับวิธี “ยึดกุมอำนาจทางเศรษฐกิจโดยกลุ่มชนชั้นสูง” (elite capture) ที่จีนใช้อยู่ จีนมักจะโอ้อวดและให้คำมั่นเพียงลมปาก มากกว่าการสร้างคุณประโยชน์ที่แท้จริง เหล่าเจ้าหน้าที่ภาครัฐของกลุ่มประเทศพันธมิตรที่หันไปเลือกการผูกสัมพันธ์กับจีน ต่างนำมาแบ่งปันให้รมว.อู๋ฯ ฟังว่า รัฐบาลจีนมิได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ ส่งผลให้หลายประเทศรู้สึกเสียใจต่อการตัดสินใจที่ผิดพลาด โดยรมว.อู๋ฯ ยังกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้อง อย่าได้เชื่อถือคำมั่นสัญญาจากจีนด้วยเช่นกัน