ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 25 เม.ย. 67
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีเฉลิมฉลองการเปิดใช้ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง เฟซแรกในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองจางฮั่ว” พร้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบัน ไต้หวันได้ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าที่นอกชายฝั่งแล้วเป็นจำนวน 297 ตัว ทำให้ยอดสะสมกำลังการผลิตไฟฟ้ามีมากถึง 2.37 GW แล้ว โดยคาดว่าในปีนี้จะมีการติดตั้งอุปกรณ์กังหันลมนอกชายฝั่งมากกว่า 300 ตัว ซึ่งผลสัมฤทธิ์ข้างต้นไม่เพียงนำหน้ากลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกแล้ว หากแต่ยังอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย พวกเราใช้ระยะเวลา 8 ปีในการปรับเปลี่ยนให้ “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” ที่ระบุไว้ในสมุดปกขาวเชิงนโยบาย กลายเป็นภาพที่เกิดขึ้นจริงตรงหน้า ในปัจจุบันไต้หวันมีฟาร์มกังหันลมที่มีขอบเขตกว้างขวางที่สุดในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังมีระบบห่วงโซ่อุปทานของการผลิตไฟฟ้าด้วยฟาร์มกังหันลมเป็นของตนเอง พลังงานสีเขียวที่เกิดจากฟาร์มกังหันลมถือเป็นการปูพื้นฐานของศักยภาพการแข่งขันในยุค Net Zero สำหรับภาคอุตสาหกรรมและสังคมของไต้หวัน และเป็นการคงไว้ซึ่งทรัพยากรอันล้ำค่าของการพัฒนาอย่างยั่งยืนในยุคสมัยต่อไป ซึ่งพวกเราจะมุ่งผลักดันให้ไต้หวันก้าวไปสู่อนาคตที่สะอาด สดใสและยั่งยืน
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ตนยังจำได้ดีว่า เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ได้เข้าตรวจการณ์กังหันลมต้นแบบ 2 ตัวในน่านน้ำนอกชายฝั่งทะเลของเมืองเหมียวลี่ หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทพลังงาน Orsted ก็ได้เดินทางมาเข้าลงทุนจัดตั้งฟาร์มกังหันลมในไต้หวัน โดยในปี 2562 ฟาร์มกังหันลมที่มีกำลังการผลิต 128 เมกะวัตต์ (MW) ก็ได้ทำการติดตั้งแล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งเชิงพาณิชย์แห่งแรกของไต้หวัน พิธีเปิดครั้งนี้ ปธน.ไช่ฯ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับบริษัท Orsted ที่มุ่งมั่นดำเนินการจัดตั้งฟาร์มกังหันลม เฟซแรกในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองจางฮั่วจนแล้วเสร็จ โดยมีกำลังการผลิต 900 MW ด้วยเงินทุนสนับสนุนของกองทุน Caisse de Depot et Placement du Quebec (CDPQ) จากแคนาดา และกองทุน Cathay Private ของไต้หวัน ถือได้ว่าเป็นฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียในปัจจุบัน
ปธน.ไช่ฯ ยังกล่าวอีกว่า ไต้หวันมุ่งสร้างทุกอย่างขึ้นตั้งแต่เริ่มนับ 1 จนมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย การทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้บริษัท Orsted และเดนมาร์ก ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการและเป็นประเทศแรกที่นำเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไต้หวันเป็นจำนวนมากที่สุดในปี 2565 จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อบริษัท Orsted ที่ทุ่มเททั้งเงินลงทุนและนำเทคโนโลยีมาสู่ไต้หวันด้วย
