ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
กต.ไต้หวันให้ความเห็นต่อการลงนามบังคับใช้ ““กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ประจำปี 2567” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมถึงการสนับสนุนไต้หวันด้วย
2024-04-26
New Southbound Policy。กต.ไต้หวันให้ความเห็นต่อการลงนามบังคับใช้ ““กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ประจำปี 2567” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมถึงการสนับสนุนไต้หวันด้วย (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)
กต.ไต้หวันให้ความเห็นต่อการลงนามบังคับใช้ ““กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ประจำปี 2567” ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมถึงการสนับสนุนไต้หวันด้วย (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 25 เม.ย. 67
 
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามบังคับใช้ “กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมฉุกเฉินเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ประจำปี 2567” (The Emergency National Security Supplemental Appropriations Act of 2024) อย่างเป็นทางการ โดยในเนื้อความ ได้ระบุถึงข้อเสนอด้านความมั่นคงประการต่างๆ ในกลุ่มประเทศภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงไต้หวัน พร้อมทั้งให้ความสนับสนุนทางการเงินที่จำเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือทางกลาโหมแก่ไต้หวัน และเพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพของสหรัฐฯ ในการร่วมปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก
 
โดยในเนื้อความที่ระบุถึงไต้หวัน ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ด้วยคะแนนเสียงที่เป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกยื่นเสนอให้วุฒิสภาสหรัฐฯ พิจารณาอีกครั้ง ควบคู่ไปกับร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบช่วยเหลือแก่ยูเครนและอิสราเอล ซึ่งที่ประชุมวุฒิสภาก็ได้ลงคะแนนเสียงเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์เช่นกัน ในช่วงค่ำของวันที่ 23 เม.ย. และได้นำเสนอให้ปธน.ไบเดน ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
 
หลังจากที่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาสหรัฐฯ ร่วมลงมติเห็นชอบต่อ “กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567” โดยกำหนดจะจัดสรรงบประมาณอย่างต่ำ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้โครงการเงินช่วยเหลือทางการทหาร (Foreign Military Financing, FMF) ให้สำหรับไต้หวัน โดยหลังจากที่มีการร่างแผนข้อเสนอด้านความมั่นคงที่เป็นรูปธรรมแล้ว จะให้การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม เป็นจำนวน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใต้โครงการเงินช่วยเหลือทางการทหาร (Foreign Military Financing, FMF) สำหรับกลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงไต้หวัน ตลอดจนจะมีการจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไว้สำหรับสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศที่ให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวันตามคำเรียกร้องของสหรัฐฯ เช่น การที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ต้องจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าสู่กลไกการป้องกันประเทศ เพื่อทดแทนส่วนที่อนุมัติจำหน่ายให้ไต้หวัน การบริการหลังการขาย รวมไปถึงการบ่มเพาะและฝึกอบรมบุคลากร เป็นต้น
 
เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” กต.ไต้หวันขอแสดงความขอบคุณต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ แบบข้ามพรรคและรัฐบาลภายใต้การนำของปธน.ไบเดน ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ควบคู่ไปกับการยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม ไต้หวันในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ในประชาคมโลก จะมุ่งมั่นรับผิดชอบในหน้าที่ด้วยการผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหมอย่างครอบคลุมบนพื้นฐานนโยบายภาพรวมของประเทศชาติ ทั้งนี้ เพื่อมุ่งยกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเอง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาค ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืนต่อไป