เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ไต้หวันได้ประกาศรายงานแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (CRPD) นำเสนอให้เห็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมภายใต้อนุสัญญา CRPD ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2567 ซึ่งคาดว่าจะจัดการประชุมนานาชาติเพื่อตรวจสอบรายงานแห่งชาติขึ้นในปี 2569 เพื่อแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของไต้หวันในการผลักดันการเข้าร่วมกิจการที่เกี่ยวข้องด้านสิทธิมนุษยชน

นายกงหมิงซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน (MOEA) นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนโปแลนด์ ในช่วงระหว่างวันที่ 9 – 11 ธันวาคม 2568 โดยรมว.กงฯ ได้เข้าร่วม “การประชุมภาคธุรกิจไต้หวัน - โปแลนด์” (Taiwan - Poland Business Forum) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. และเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายศูนย์ส่งเสริมการค้าและการลงทุนไต้หวัน ณ กรุงวอร์ซอ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Mr. Konrad Wojnarowski รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานโปแลนด์ และ Mr. Jacek Karnowski รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกองทุนการพัฒนาและนโยบายระดับภูมิภ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน ได้เข้าร่วม “พิธีประกาศมอบรางวัลประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนเอเชีย” (Asia Democracy and Human Rights Award) ครั้งที่ 20 โดยองค์กรที่ได้รับรางวัลประจำปีนี้ได้แก่ สมาคมการส่งมอบความช่วยเหลือทางกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอินโดนีเซีย (Perhimpunan Bantuan Hukum dan HAM Indonesia, PBHI) ที่ยืนหยัดในภารกิจด้านสิทธิมนุษยชนอย่างหนักแน่น ท่ามกลางสถานการณ์ที่พลิกผัน ควบคู่ไปกับการเชื่อมโยงแผนปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษยชนในประชาคมโลก

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา สภาบริหารไต้หวันได้ประกาศรายงานแห่งชาติ ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women, CEDAW) ครั้งที่ 5 โดยได้นำเสนอให้เห็นความก้าวหน้าบนเส้นทางความเสมอภาคทางเพศในไต้หวัน ตลอดช่วงปี 2564 – 2567

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา Mr. Shinjirō Koizumi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไต้หวัน และ Mr. Richard Marles รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย ได้จัดการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งได้มีการประกาศแถลงการณ์ร่วมเพื่อแสดงจุดยืนว่า สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถขาดได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลก พร้อมทั้งคัดค้านต่อมาตรการที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบันของช่องแคบไต้หวัน ด้วยวิธีการข่มขู่ด้วยกำลังทหารหรือก

การประชุมสมัชชาใหญ่องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (The International Criminal Police Organization, INTERPOL) ครั้งที่ 93 มีกำหนดการจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24 – 27 ธันวาคม 2568 ณ เมืองมาราเกช ราชอาณาจักรโมร็อกโก ซึ่งหัวข้อการประชุมของปีนี้คือ “การประสานความร่วมมือของแวดวงตำรวจระดับนานาชาติ ร่วมสร้างอนาคตที่มั่นคงยิ่งขึ้น” (Uniting Global Policing for a Safer World) แต่ที่น่าขบขันคือ INTERPOL กลับกีดกันการเข้าร่วมของประชาชนชาวไต้หวัน จำนวน 23 ล้านคน อันเนื่องมาจากปัจจัยทางการเมือง หรือแม้แต่กล่

นายกงหมิงซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน (MOEA) นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนสาธารณรัฐเช็กในช่วงระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยในระหว่างนี้ รมว.กงฯ ได้เข้าพบปะกับ Mr. Miloš Vystrčil ประธานวุฒิสภาเช็ก , Mr. Jiří Drahoš รองประธานวุฒิสภา , Mr. Marek Benda ประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันแห่งสภาผู้แทนราษฎรเช็ก และ Ms. Markéta Pekarová Adamová อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรเช็ก รวมถึงเจ้าหน้าที่กิจการฝ่ายเศรษฐกิจและการค้าระดับสูง เพื่อร่วมอภิปรายในประเด็นสถานการณ์การแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลย

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐอเมริกา รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ประกาศเผยแพร่ “กฎหมายการป้องกันประเทศ” (National Defense Authorization Act, NDAA 2026) NDAA ที่ผ่านมติเห็นชอบจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ โดยญัตติกฎหมายข้างต้น ได้มีการระบุข้อระเบียบที่เป็นมิตรต่อไต้หวันหลายรายการ

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน เข้าร่วมกล่าวปราศรัยผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้า ในกิจกรรม “งานเลี้ยงฉลองน้ำชา เนื่องในวาระครบรอบ 85 ปีโครงการ International Visitor Leadership Program” (IVLP) โดยปธน.ไล่ฯ ได้ให้การยอมรับต่อ IVLP ที่สร้างคุณูปการสำคัญในการบ่มเพาะผู้นำระดับโลก ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ พร้อมกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ระบุว่า การแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างแนบแน่น ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรมและการบ่

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ได้ประกาศเปิดตัวเอกสาร “ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ” (National Security Strategy, NSS) ฉบับใหม่ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งสาระสำคัญของเนื้อหานอกจากจะระบุถึงบทบาทผู้นำของไต้หวัน ด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกแล้ว ยังได้เน้นย้ำตำแหน่งที่ตั้งของไต้หวันในด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคมนาคมขนส่งทางทะเลระดับสากล ซึ่งส่งผลกระทบสำคัญยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานยังได้ระบ