เปิดตัวงาน Taiwan Expo 2018 in Thailand ด้วยแนวคิดแปลกใหม่กับการใช้วัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ผ่านการวาดภาพประกอบสุดเก๋ (ในภาพ คนที่ 1 จากซ้ายคือ Trai นักวาดภาพประกอบชาวไทย คนที่ 5 จากซ้ายคือ หวงจื้อฟาง ประธาน TAITRA และคนขวาสุดคือ Mark นักวาดภาพประกอบชาวไต้หวัน) (ภาพโดย TAITRA)
ไต้หวัน-ไทยจับมือดันความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน เปิดฉากยิ่งใหญ่ งาน Taiwan Expo 2018 ชูแนวคิด “Let’s Tie Together”
กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 30 ส.ค. 61
Taiwan Expo 2018 in Thailand เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา (BITEC) โดยกระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้มอบหมายให้สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (TAITRA) ของไต้หวันร่วมกับสมาคมการค้าไทย-ไต้หวัน จัดงานมหกรรม Taiwan Expo ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้าเชิงลึกระหว่างไต้หวันและไทย โดยมีหน่วยงานราชการของไต้หวันกว่า 20 หน่วยงาน อาทิ คณะกรรมการการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะกรรมการกิจการชนเผ่าพื้นเมือง และหน่วยงานในสังกัดของเมืองและนครต่างๆ อีก 7 แห่ง ตลอดจนมีผู้ประกอบการไต้หวันกว่า 210 ราย ร่วมเปิดบูธจัดแสดงภายในงานกว่า 250 บูธ
งาน Taiwan Expo ได้รับเกียรติจาก นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือ TCEB และนางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีเปิดงานอย่างคับคั่ง พร้อมทั้งเชิญนักวาดภาพประกอบชื่อดังของไทยและไต้หวัน Mark และ Bonbon ร่วมวาดภาพประกอบให้กับงาน Taiwan Expo ครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ ฝ่ายไต้หวันและไทยยังได้ร่วมกันเขียนคำว่า “Tie Together” เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงการเปิดศักราชใหม่แห่งความร่วมมือระหว่างกัน และเพียงวันแรกของการเปิดงาน ปรากฎว่ามีคนไทยให้ความสนใจเข้าร่วมงานนับหมื่นคน รวมทั้งมีนักลงทุนสนใจและติดต่อเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไต้หวันกว่า 300 ราย คาดว่าตลอด 3 วันของการจัดงาน จะสามารถถึงดูดผู้สนใจเข้าร่วมงานได้มากกว่าสามหมื่นคน และสร้างโอกาสทางการค้าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไต้หวันถือเป็นหุ้นส่วนที่มีความร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไต้หวันมีศักยภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนมีบุคลากรที่มีความสามารถ จึงสอดคล้องกับความต้องการในการยกระดับและปรับเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมตามนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ที่รัฐบาลไทยกำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองฝ่ายในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น การจัดงานในครั้งนี้จึงมีการจัดแบ่งโซนจัดแสดงออกเป็น 7 โซน ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงพลังอ่อนนุ่มทางวัฒนธรรมของไต้หวันด้วย โดยเฉพาะโซนการท่องเที่ยวที่มีการออกแบบและจัดวางอย่างโดดเด่นเตะตามากที่สุด งานครั้งนี้ได้รับความสนใจและดึงดูดผู้เข้าร่วมงานเพื่อสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่หลากหลาย อาทิ
1. วัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ : เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ระหว่างสองฝ่าย ผู้จัดงานได้เชิญสมาคมวัฒนธรรมจีน (The General Association Of Chinese) ร่วมจัดแสดงพาวิลเลียนในธีม “Six Senses Taiwan” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลายของไต้หวันในรูปแบบต่างๆ ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 6 ได้แก่ การมองเห็น การได้กลิ่น การได้ยิน การสัมผัส การรับรส และการรู้สึก นอกจากนี้ “อาคารอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ไต้หวัน” ยังออกแบบภายใต้แนวคิด “Formosa Forms” เพื่อถ่ายทอดให้เห็นถึงแนวโน้มและความสามารถในการออกแบบของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ของไต้หวัน ตลอดจนการเชื่อมโยงการออกแบบให้เข้ากับการใช้ชีวิตในประจำวันด้วย
2. บุคลากรที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว : เพื่อสอดรับกับการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งมีความต้องการบุคลากรระดับสูงที่มีศักยภาพอย่างเร่งด่วน นอกจากจะมีบูธของมหาวิทยาลัย National Pingtung University of Science and Technology ที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อในไต้หวันแก่นักเรียนไทยแล้ว กระทรวงเศรษฐการยังได้จัดบูธ Contact Taiwan เพื่อแนะนำการไปทำงานที่ไต้หวันให้แก่บัณฑิตไทย และเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศในการเปิดรับบุคลากรที่มีศักยภาพตามนโยบายมุ่งสู่ใต้ใหม่ นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดบูธภายใต้ธีมต่างๆ ที่น่าสนใจเช่น “Year Of Bay” และ “Taichung World Flora Exposition” เป็นการสื่อให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของไต้หวัน และเชิญชวนเพื่อนๆ ชาวไทยเดินทางไปสัมผัสและท่องเที่ยวที่ไต้หวัน
