กลุ่มแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ได้บรรยายให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาทราบถึงข้อดีของระบบโรงงานอัจฉริยะ ภาพโดย TAITRA

ผู้ประกอบการไต้หวันพาเหรดตั้งออฟฟิศในไทย

TAITRA วันที่ 31 ส.ค. 61

ในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันแรกของนิทรรศการ TAIWAN EXPO 2018 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ได้มีการจัดงานสัมมนาด้านเครื่องจักรกลอัจฉริยะของไต้หวันภายใต้หัวข้อ "ไต้หวันคือพันธมิตรอัจฉริยะสำหรับ Thailand 4.0" โดยมีผู้มาเข้ารับฟังการบรรยายมากกว่า 120 คน ซึ่งรวมถึงตัวแทนจากกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของไทย ที่มีทั้ง Summit Group, Toyota และ JWD รวมไปจนถึงสื่อมวลชนต่างๆ เช่น Manufacturing review, mmthailand, foodfocusthailand และหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นต้น โดยมีนายกสมาคมกิตติมศักดิ์ของสมาคมชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทนไทย และอุปนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป มาร่วมแสดงความยินดีพร้อมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดของงาน เพื่อแสดงความสนับสนุนต่อการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและไต้หวันด้วย

การสัมมนาในครั้งนี้ ผู้จัดงานคือสภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) ได้ดำเนินโครงการภายใต้ “แผนผลักดันเครื่องจักรอัจฉริยะสู่ตลาดต่างประเทศ” ของกรมการค้าต่างประเทศไต้หวัน โดยเป็นการจัดงานครั้งที่ 4 ในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ต่อจากที่อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไต้หวันและไทย ภายในงานได้มีการเชิญผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์และอาหารแปรรูปมาให้การบรรยาย รวมถึงกลุ่ม Far Eastern Group ซึ่งมีการลงทุนในประเทศไทยมาเป็นเวลายาวนาน FCS Group ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องฉีดพลาสติกรายใหญ่ 20 อันดับแรกของโลก กลุ่มแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ซึ่งเป็นผู้ผลักดันโครงการโรงงานไม่เปิดไฟ YUNG SOON LIH FOOD MACHINE เจ้าของแบรนด์ eversoon ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แบรนด์ใหญ่ในสินค้าเครื่องจักรกลสำหรับผลิตเต้าหู้และน้ำเต้าหู้ รวมถึง Tsung Hsing Food Machinery (TSHS) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องทอดอาหารรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ต่างก็ส่งตัวแทนมาให้การบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยที่มารับฟังด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ได้มีการลงทุนตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว และในช่วงหลายปีมานี้ ได้มีการนำเอาระบบการผลิตแบบอัจฉริยะมาใช้ในโรงงานหลายอย่าง ทั้งแขนกล (โรบอท) รถขนของอัตโนมัติ รวมถึงระบบ IoT จนทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มสูงขึ้นและลดการใช้พลังงานลงได้เป็นอย่างมาก พร้อมนี้ ทางบริษัทฯ ได้ประกาศภายในงานด้วยว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ บริษัทฯ จะทำการจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นในประเทศไทย เพื่อให้บริการระบบการผลิตอัจฉริยะแบบครบวงจร ทั้งด้านแขนกล ระบบ AGV ระบบ IoT และระบบ Big Data

นอกจากนี้ FCS Group ได้เปิดตัวระบบ iMF 4.0 ซึ่งเป็น “ระบบบริหารจัดการการผลิตแบบอัจฉริยะ” ภายในงานด้วย เพื่อให้บริการแก่เหล่าผู้ประกอบการ SMEs ของไทย ที่ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการโรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะเป็นระบบที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมสำหรับการบริหารจัดการข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละรายด้วย

ในส่วนของ TSHS ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องจักรกลในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ประกอบการขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ของไทยจำนวนมาก ก็ได้แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับระบบสายการผลิตอัตโนมัติในอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมประกาศจะจัดตั้งศูนย์บริการขึ้นในประเทศไทยภายในปีนี้ เพื่อให้บริการได้อย่างครอบคลุมและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการแก่ลูกค้าในประเทศไทย โดยบริการของศูนย์ฯ จะรวมถึงการบริการซ่อมบำรุงเครื่องจักรแบบทันใจ การทดลองเครื่องจักรสำหรับสินค้าใหม่ของลูกค้า โดยบริษัทจะส่งวิศวกรผู้ชำนาญการจากไต้หวันไปฝึกอบรมให้ความรู้แก่ช่างเทคนิคถึงประเทศไทยด้วย

ส่วนกลุ่ม Far Eastern Group ก็ได้นำเอาระบบสายการผลิตล้อแมกซ์แบบอัตโนมัติ มาเผยแพร่ในงาน ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยเป็นอย่างมาก และเครื่องผลิตน้ำเต้าหู้และเต้าหู้ของ YUNG SOON LIH FOOD MACHINE ก็ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตนมถั่วเหลืองของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

งานสัมมนาในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งเครื่องจักรกลอัจฉริยะของไต้หวันแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการไต้หวันต่างก็ให้ความสำคัญกับการทำตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างมาก พร้อมหวังว่าผู้ประกอบการไทยจะสามารถเข้าใจถึงข้อดีและจุดเด่นของเครื่องจักรกลไต้หวัน ซึ่งไต้หวันพร้อมจะเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจของเหล่าผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมของไทยเช่นกัน