กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 ต.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้นำสหรัฐอเมริกา และ Mr. Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมที่กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยมีเนื้อความแสดงจุดยืนว่าด้วยความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในปัจจุบัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีผ่านการเจรจา ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีแรงกดดัน และไม่ใช้อาวุธในการข่มขู่ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอขอบคุณผู้นำสหรัฐฯ - ออสเตรเลียด้วยใจจริง ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างเปิดเผย ต่อเนื่องจากการประชุมผู้นำของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกทั้ง 7 ประเทศ (G7) ที่จัดขึ้นในเมืองฮิโรชิมะของญี่ปุ่น
 
ที่ผ่านมา จีนอาศัยข้ออ้างต่างๆ สร้างแรงกดดันต่อไต้หวัน และยกระดับการข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร ก่อให้เกิดเป็นความท้าทายขั้นรุนแรงด้านความมั่นคงในภูมิภาค ส่งผลให้ประชาคมโลกทยอยแสดงความห่วงใยต่อไต้หวัน อันจะเห็นได้จากการระบุถึงสถานการณ์ล่าสุดของช่องแคบไต้หวัน ในเวทีการประชุมนานาชาติหลายครั้ง เช่น การประชุมสหรัฐฯ – EU การประชุมสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ การประชุมระดับรัฐมนตรี ระหว่างสหรัฐฯ - ออสเตรเลีย (AUSMIN) การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศและการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มประเทศ G7 รวมถึงแถลงการณ์การประชุมแบบพหุภาคี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า สันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน ได้กลายมาเป็นฉันทามติที่เห็นพ้องทั่วกันของประชาคมโลกแล้ว ในฐานะที่ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ ไต้หวันจะประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้สันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกคงอยู่สืบไป