ช้ามไปยังส่วนข้อมูลหลัก
ปธน.ไช่อิงเหวินเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุโศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์
2024-02-29
New Southbound Policy。ปธน.ไช่อิงเหวินเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุโศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)
ปธน.ไช่อิงเหวินเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุโศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ (ภาพจากทำเนียบประธานาธิบดี)

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 28 ก.พ. 67
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนเมืองเจียอี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 77 ปีเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ โดยนอกจากปธน.ไช่ฯ จะวางพวงหรีดเพื่อแสดงความเคารพและไว้อาลัยแด่เหยื่อทางการเมืองที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้แล้ว ปธน.ไช่ฯ ยังแถลงว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมุ่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมอย่างมีระบบแบบแผน ตราบจนปัจจุบัน ได้มีการจัดทำรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ รวม 4 ฉบับ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งรัฐบาลยังได้กอบกู้ชื่อเสียงและจัดสรรเงินชดเชยให้แก่ผูเสียหาย จวบจนปัจจุบัน มีการยื่นขออนุมัติเงินชดเชยเป็นจำนวนมากกว่า 2,000 ราย รวมมูลค่าเงินชดเชยเป็นจำนวน 4,000 ล้านเหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลยังได้ผลักดันการแก้ไขข้อกฎหมายว่าด้วยข้อมูลลับทางราชการ (Political Archives Act) ซึ่งได้รับเสียงมติสนับสนุนจากพรรคฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน โดยจะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมมิใช่ภาระหน้าที่ของพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องการจะชดใช้ความเสียหายแก่ผู้บริสุทธิ์ ที่ตกเป็นผู้ถูกกระทำในยุคที่ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการ
 
ปธน.ไช่ฯ ย้ำว่า การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นธรรมไม่มีเส้นทางลัด ความทรงจำที่เจ็บปวดจะไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา พวกเราจึงจำเป็นต้องแสวงหาแนวทางการคงอยู่ร่วมกันกับประวัติศาสตร์อย่างสันติ ด้วยวิธีการที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างสังคมที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องราวในอดีต พวกเราไม่สามารถลืมเลือนได้ แต่ก็ไม่ต้องกลัวที่จะย้อนรำลึกถึง เพื่อรับมือกับทิศทางในอนาคต พวกเราจำเป็นต้องมีการพูดคุยในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสวงหาแนวทางการพัฒนาของสังคมประชาธิปไตยที่เป็นไปอย่างยั่งยืน
 
การกล่าวปราศรัยของปธน.ไช่ฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้ :

เหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ เป็นการกระตุ้นความมุ่งมั่นในการแสวงหาหลักการแห่งประชาธิปไตยและเสรีภาพของประชาชนชาวไต้หวัน อย่างไรก็ตาม การปกครองแบบเผด็จการและการกดขี่ ถือเป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของเมล็ดพันธุ์แห่งประชาธิปไตย และผลักให้ไต้หวันถลำสู่ช่วงระยะเวลาที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก ในช่วงเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์
 
อดีตอันยากลำบากที่ผ่านพ้นไป ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน การที่จะรักษาบาดแผลและความเจ็บปวดให้หายดีได้นั้น จำเป็นต้องทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น เมื่อใดที่พวกเราสามารถเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริงได้อย่างเปิดเผย รับฟังซึ่งกันและกัน จึงจะสามารถลบรอยแผลได้อย่างหมดจด เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจต่อกันอย่างแท้จริง ตลอดจนเพื่อลบล้างต้นตอการแบ่งแยกในสังคมไต้หวัน ที่เกิดจากห้วงเวลาในประวัติศาสตร์ และเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนชาวไต้หวันมุ่งธำรงปกป้องประชาธิปไตย และเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างสามัคคี
 
ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา พวกเรามุ่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรมอย่างมีระบบแบบแผน ในด้านการวางรากฐานทางกฎหมาย พวกเราได้ทำการแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดรวม 5 ฉบับ เพื่อปูรากฐานด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมในภายภาคหน้า
 
นอกจากนี้ พวกเรายังได้จัดตั้งหน่วยงานและกลไกความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรม โดยหลังจากที่ คณะกรรมการในการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรมได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจตามขั้นตอนแล้ว สภาบริหารไต้หวันก็จะรวบรวมเจ้าหน้าที่ในองค์การที่เกี่ยวข้องรวม 6 หน่วยงาน เพื่อทำการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมในภายภาคหน้าต่อไป
 
บนพื้นฐานข้างต้นเหล่านี้ รัฐบาลได้จัดทำรายงานตรวจสอบข้อเท็จจริง รวม 4 ฉบับ เพื่อคืนความจริงให้กับประวัติศาสตร์ รวมไปถึงการบัญญัติข้อกฎหมายว่าเพื่อจัดการเกี่ยวกับการถือครองข้อมูลและทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบของพรรคการเมือง โดยยึดคืนเป็นของแผ่นดิน พร้อมทั้งจัดตั้งมูลนิธิปฏิบัติการพิเศษเพื่อนำใช้ในด้านการกุศลและภารกิจที่เกี่ยวข้องในด้านการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรมต่อไป
 
นอกจากนี้ นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตเนื่องจากเหตุการณ์ 228 ที่ได้รับการยืนยันตัวตนและได้รับการชดเชยเป็นจำนวน 2,340 รายแล้ว มูลนิธิ 28 กุมภาพันธ์ ยังได้ค้นพบ “ผู้เสียชีวิตที่เป็นไปได้” อีกจำนวนกว่า 4,000 ราย
 
ในลำดับต่อไป ปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลไต้หวัน จะมอบประกาศนียบัตรกอบกู้ชื่อเสียงเกียรติยศให้แก่ครอบครัวของเหยื่อทางการเมืองที่ล่วงลับไปแล้ว โดยในจำนวนนี้ บรรพบุรุษของ 2 ครอบครัวที่เดิมทีอยู่ในรายชื่อ “ผู้เสียชีวิตที่เป็นไปได้” ภายหลังจากที่ข้อมูลลับทางราชการได้รับเปิดเผยแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงใหม่อีกครั้งและพบว่าเป็นเหยื่อทางการเมืองโดยตรง จากกรณีดังกล่าวเป็นการย้ำเตือนให้พวกเราตระหนักเห็นว่า รัฐบาลยังทำอะไรได้อีกมากเมื่อต้องการแสวงหาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
 
ภารกิจการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรมเหล่านี้ ได้ตีแผ่ข้อเท็จจริง ความเป็นธรรม การปลอบประโลม และการย้อนรอยความทรงจำ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ การสร้างหลักประกันว่า จะไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งถือเป็น 5 หลักการสำคัญของการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรม ที่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก
 
ภาคประชาสังคมไต้หวันก็ได้ร่วมอุทิศคุณประโยชน์ด้านการเปลี่ยนผ่านเพื่อคืนความยุติธรรมด้วยวิธีการของตนเองอย่างกระตือรือร้นไม่แพ้กัน อาทิ “In Search of a Mixed Identity” สารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรม 28 กุมภาพันธ์ ที่เตรียมจะเปิดฉายขึ้นในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ รวมไปถึงเทศกาลดนตรี Gongsheng ที่เตรียมก้าวสู่ครั้งที่ 12 ในปีนี้