เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.พ. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ คณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ประจำสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก โดยได้กล่าวแสดงความขอบคุณคณะผู้แทนถาวรของประเทศพันธมิตร ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับไต้หวันในเวทีสำคัญนานาชาติเสมอมา พร้อมย้ำว่า ไต้หวันเป็นด่านแรกที่ถูกคุกคามจากเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในครั้งนี้ จึงไม่ควรถูกกีดกันให้อยู่นอกเครือข่ายการป้องกันโรคระบาดทั่วโลก ประกอบกับไต้หวันมีระบบการแพทย์ที่ก้าวหน้าล้ำสมัย ทั้งยังมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญที

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 ก.พ. นายเฉินเจี้ยนเหริน รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า ไต้หวันยังไม่เข้าข่ายการเป็นพื้นที่ที่มี “การแพร่กระจายในชุมชน” ความเสี่ยงที่ผู้คนทั่วไปจะติดเชื้อในชุมชนอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ดังนั้นจึงยังไม่มีความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการป้องกันโรคระบาดให้เข้มข้นขึ้น โดยรองปธน.เฉินฯ ได้เรียกร้องให้ประชาชนตระหนักถึงความจำเป็นในการป้องกันโรคระบาดเบื้องต้น และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ด้วยการหมั่นล้างมือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด หากมีอาการ

เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า ในไต้หวันมีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 เพิ่มขึ้น 2 ราย รายแรกเป็นผู้ชายวัย 61 ปีที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางภาคกลางของไต้หวัน มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีและโรคเบาหวานมาก่อน ไม่มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา และไม่ได้เป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับกรณีผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยและยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ในช่วงก่อนหน้านี้

เมื่อค่ำวันที่ 14 ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ได้จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงบ่ายของวันเดียวกัน หลังจากที่ได้ร่วมอภิปรายกันระหว่างหน่วยงานและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความเข้าใจและให้การยอมรับต่อมาตรการเข้มงวด และความพยายามในการดำเนินภารกิจป้องกันโรคโควิด - 19 ของไต้หวัน ซึ่งท้ายที่สุดได้ผ่านมติที่เป็นมิตรต่อไต้หวัน โดยได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามการเดินทางของผู้โดยสารชาวไต้หวัน

เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ในที่ประชุมสภาบริหาร นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับฟังรายงานที่เกี่ยวกับ “มาตรการการรับมือโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโควิค – 19” จากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ กระทรวงเศรษฐการ คณะกรรมการกิจการเกษตร และกระทรวงคมนาคม ก่อนจะชี้ว่า โรคระบาดในครั้งนี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อไต้หวันหลายด้าน จึงขอให้ทุกหน่วยงานรวบรวมแผนงานในการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า “สโมสรฟอร์โมซา” (Formosa Club) ที่จัดตั้งขึ้นโดยประธานกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายุโรปแบบข้ามชาติ ได้แสดงความห่วงใยอย่างจริงจังต่อ ประเด็นที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้ไต้หวันเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ส่งผลให้สาธารณรัฐอิตาลียกเลิกทุกเที่ยวบินที่บินตรงระหว่างไต้หวัน – อิตาลี พร้อมส่งสารถึงนายแพทย์ อัดฮานอม กีเบรเยซุ (Tedros Adhanom Ghebreyesus) เลขาธิการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อ

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Ministry of Science and Technology, MOST) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติ ในภารกิจความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของไต้หวัน ศูนย์เทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติของไต้หวัน (National Science and Technology Center for Disaster Reduction, NCDR) ได้ร่วมดำเนินการตาม “โครงการพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันภัยพิบัติอัจฉริยะ ในประเทศเป้าหมายนโยบายมุ่งใต้ใหม่” ของ MOST อย่างต่อเนื่อง เพื่อวัตถุประสงค์ในการขยายความร่วม

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเมืองอัจฉริยะนานาชาติ ICF Top 7 ประจำปี 2020 (2020 Intelligent Community Forum) โดยระบุว่า เครือข่ายการป้องกันโรคระบาดทั่วโลกไม่ควรมีช่องโหว่ โดยเฉพาะไม่ควรลิดรอนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข ด้วยเหตุผลทางการเมือง พร้อมกล่าวว่า ไต้หวันจะเข้าร่วมการประชุมผู้เชี่ยวชาญโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยผ่านระบบประชุมทางไก

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารการประกวดงานออกแบบของนักศึกษานานาชาติ ไต้หวัน (Taiwan International Student Design Competition, TISDC) แถลงว่า นายเฉินจวิ้นหงและนายหลี่ซินฟู่ อาจารย์พิเศษ ซึ่งเป็นประธานร่วมของโครงการการประกวดฯ ดังกล่าว ได้นำคณะอนุกรรมการบริหารฯ เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมการประกวด TISDC ประจำปี 2020

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขแห่งชาติของไต้หวัน (National Health Research Institutes, NHRI) แถลงว่า เมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา ได้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ในวงกว้าง ทาง NHRI มีความเห็นว่าในภาวะ “สงครามโรคระบาด” เช่นนี้ NHRI ควรต้องเร่งวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค เพื่อรับมือกับโรคร้าย จึงริเริ่มโครงการคิดค้นวิจัยวัคซีน โดยประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน และศักยภาพทางด้านการผลิตของโรงงานผลิตยาชีววัตถุ (biologic products) พร้อมผลักดันแผนรับ